รองนายกฯทธรรมนัส ลั่น ปีนี้ไม่มีน้ำท่วมซ้ำรอย ปี 54 หลัง นายกฯ สั่งเข้มบริหารจัดการน้ำพื้นที่ปทุมฯ–สมุทรปราการ พร้อมเดินหน้าดันราคายางพาราทะลุ 60 บาท–ปาล์มแตะ 10 บาท เปิดตลาดจีน–ยุโรป ฟื้นเศรษฐกิจฐานรากทั่ว ปท.

บก.

รองนายกฯทธรรมนัส ลั่น ปีนี้ไม่มีน้ำท่วมซ้ำรอย ปี 54 หลัง นายกฯ สั่งเข้มบริหารจัดการน้ำพื้นที่ปทุมฯ–สมุทรปราการ พร้อมเดินหน้าดันราคายางพาราทะลุ 60 บาท–ปาล์มแตะ 10 บาท เปิดตลาดจีน–ยุโรป ฟื้นเศรษฐกิจฐานรากทั่ว ปท.

วันที่ 6 พ.ย.68 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ,น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง , นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์,นายภูผา ลิกค์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์,นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดปทุมธานี โดยมี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ให้การต้อนรับ

 

โดย ร.อ.ธรรมนัส และคณะ ได้เดินทางไปยังสำนักงานเทศบาลเมืองคูคต และวัดลาดสนุ่น ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อติดตามการดำเนินงานด้านการเกษตรและการบริหารจัดการน้ำ และรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี พร้อมพบปะและมอบถุงยังชีพจากมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อการกุศล ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ จำนวน 1000 ชุด รวมทั้งได้นำคลินิกผ่าตัดทำหมันสุนัขและแมวเคลื่อนที่ จากโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากพิษสุนัขบ้า ไปให้บริการด้วย

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวช่วงหนึ่งว่า เมื่อวานนี้ตนได้ที่พูดคุยกับท่านอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประมาณ 3–4 ชั่วโมง คนก็เข้าใจว่า ผมไปคุยเรื่องการเมือง ยุบสภา หรืออภิปรายไม่ไว้วางใจ จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย ไม่มีเรื่องการเมืองเลย มีแต่เรื่องการงานทั้งนั้น โดยท่านนายกฯ เป็นห่วงและกำชับอย่างมากในเรื่องการบริหารจัดการน้ำไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดปทุมธานี และสมุทรปราการ อย่าให้ซ้ำรอยปี 2554 เพราะทั้ง 2 จังหวัดนี้ถือว่าเป็นปราการด่านสุดท้ายที่ต้องรับมวลน้ำจากทุกทิศที่ไหลมารวมกัน ซึ่งตนขอยืนยันปีนี้ไม่มีแบบนั้นแน่นอน ยังไงเราก็เอาอยู่

”ในส่วนของราคายางพารา ตั้งแต่ผมได้ลงนาม MOU กับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวง พม. และกระทรวงท่องเที่ยว จากราคา 50 บาท/กิโลกรัม ดีดขึ้นมา 60 บาท/กิโลกรัมแล้วและเรากำลังจะทำราคายางให้ดีกว่านี้ โดยที่เราไปขยายตลาด ซึ่งท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไปเปิดตลาดทั้งจีนและยุโรป และสิ่งสำคัญที่สุด ณ เวลานี้ คือ เรามีการปราบปรามยางเถื่อนอย่างเอาจริงเอาจัง ผมได้ประกาศเขตพื้นที่ควบคุมใหญ่ ห้ามเอายางจากประเทศเพื่อนบ้านมาใช้ในบ้านเราอย่างเด็ดขาด สิ้นเดือนนี้ราคายางจะขยับขึ้นสูงขึ้นกว่านี้แน่“ ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึง ราคาปาล์มว่า ในฐานะที่นายกรัฐมนตรีมอบให้ตนเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มแห่งชาติ ขณะนี้ ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 6 – 7 บาท ตนจะทำให้ขยับถึง 10 บาทให้ได้ จะทำได้หรือไม่ได้ก็ดูคนบ้าคนนี้ก็แล้วกันว่า ทำได้หรือเปล่า โดยมาตรการที่ตนจะทำในการประชุมวันที่ 27 พ.ย.นี้ คือการลงนาม MOU กับสายการบินหลายสายการบินที่จะซื้อน้ำมันและเปลี่ยนน้ำมันปาล์มเป็นน้ำมันเครื่องบิน จะทำให้ดีที่สุด เดี๋ยวคอยดูว่าราคาปาล์มขึ้นหรือเปล่า และในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ตนก็จะเดินทางไปประเทศจีน เพื่อลงนามหนังสือสัญญาซื้อขายสินค้า เช่น รังนก น้ำผึ้ง สัตว์ปีก เพื่อขยายตลาดการส่งออกของไทย

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า วานนี้ ตนได้รับเกียรติเป็นประธานจัดงาน “มหกรรมลอยกระทง” ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งพี่น้องชาวอยุธยาได้ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงประเพณีโบราณอันงดงาม มีการจุดพลุแบบดั้งเดิม ไม่เอิกเกริก แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและศรัทธา สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดเมื่อวานนี้ คือทันทีที่เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใช้เวลาเดินทางจากประตูเมืองไปถึงงานกว่า 30 นาที เพราะรถติดมาก แสดงว่าคนเยอะจริง ๆ ผมเห็นแล้วดีใจครับ ชาวบ้านออกมาร่วมงานกันเต็มไปหมด แม้จะหาที่จอดรถยาก แต่ทุกคนก็ยิ้มแย้ม มีความสุข ชาวบ้านหลายคนบอกว่า ปีนี้จัดได้ดีมาก ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุด คือการร่วมอนุรักษ์ประเพณีไทย ที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ ประเพณีที่เราอยู่ร่วมกับน้ำ และเป็นการขอขมาพระแม่คงคา

“ผมในฐานะผู้กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้สำรวจภาพรวมของงานทั่วประเทศ พบว่าการจัดงานลอยกระทงปีนี้สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากกว่า 6,500 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นที่วัดอรุณราชวราราม ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม จัดงาน คนก็แน่นมาก ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ก็มีการจัดงานบรรยากาศคึกคักเช่นกัน ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า เศรษฐกิจฐานรากของไทยกำลังฟื้นตัว คนอยากออกไปกิน เที่ยว จับจ่ายใช้สอย โครงการ “คนละเที่ยว คนละฝั่ง” ที่เราทำ มันได้ผลจริง อย่างที่บ้านผม จังหวัดพะเยา ชาวบ้านก็ตื่นตัวมากมีการจับจ่ายใช้สอยกันทั่วเมือง ถึงแม้เราจะดำเนินการในระยะเวลาสั้น ๆ แต่เห็นผลชัดเจน”

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการทำงานคู่ขนาน ทั้งพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างรายได้ และดูแลพี่น้องประชาชน และขอฝากให้พี่น้องทุกคนมั่นใจว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมร่วมกันดูแลพี่น้องชาวปทุมธานีทุกท่าน

#รองนายกรัฐมนตรีธรรมนัส #ปทุมธานี #คำรณวิทย์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

“รมว.อัครา” เตรียมนำทีม “พม.ใกล้คุณ” ช่วยกลุ่มเปราะบาง 3 จว.ชายแดนใต้

“รมว.อัครา” เตรียมนำทีม “พม.ใกล้คุณ” ช่วยกลุ่มเปรา […]

You May Like

Subscribe US Now