DPU ร่วมฉลอง 10 ปี “สถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล” เสริมบทบาทไทย–จีนบนเวทีโลก
สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล และ พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นางสวี่ หลาน ที่ปรึกษาฝ่ายการศึกษา สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย นายอวี้หยุนเฟิง ผู้อำนวยการใหญ่ศูนย์แลกเปลี่ยนและส่งเสริมความร่วมมือด้านภาษาจีนระหว่างประเทศ (CLEC) ศาสตราจารย์ จง อิงหวา ประธานสมาคมการสอนภาษาจีนนานาชาติ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยครุศาสตร์เทียนจิน รวมถึง นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.คณกร สว่างเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา และ ผู้บริหารจากสถาบันด้านการศึกษาต่างๆ ร่วมกันฉลองครบรอบ 10 ปีสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน 2568 เวลา 15.00 น. ณ โรงแรมแมนดาริน ถนนพระราม 4 เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) กล่าวว่า สถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเลก่อตั้งมาครบ 10 ปี ณ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งได้มีผลงานในการสอนภาษาและวัฒนธรรมจีนให้แก่หน่วยราชการและสถานศึกษาทั้งในระดับมหาวิทยาลัย วิทยาลัยและโรงเรียนเป็นจำนวนมากและได้มอบทุนการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ไปแล้วจำนวน 328 ทุน มูลค่า 171 ล้านบาท โดยในวันนี้จะได้มีพิธีมอบป้าย “ห้องเรียนขงจื่อโรงเรียนกวงฮั้ว” ในสังกัดสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเลและพิธีเปิดป้ายสมาคมศิษย์เก่าทุนการศึกษาครูสอนภาษาจีนนานาชาติแห่งประเทศไทยอีกด้วย
ด้าน พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวในโอกาสร่วมงานฉลองครบรอบ 10 ปี สถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเลว่า สถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือทางการศึกษาระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเฉพาะในวาระครบรอบ 50 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูต ที่แสดงถึงมิตรภาพและความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นระหว่างกัน โดย สถาบันขงจื่อนี้ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมด้านวิชาการและวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเป็นฐานสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือด้านภาษา การศึกษา และการสร้างสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระยะยาว นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้ง “สมาคมศิษย์เก่าทุนการศึกษาครูสอนภาษาจีนนานาชาติแห่งประเทศไทย” ซึ่งการมีเครือข่ายความร่วมมือนี้จะช่วยส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพครูภาษาจีนในประเทศไทย และยกระดับคุณภาพเยาวชนไทยให้สามารถแข่งขันในเวทีนานาชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ได้ช่วยกันสนับสนุนการเรียนการสอนภาษาจีนและวัฒนธรรมจีนให้แก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาเครือข่าย ตลอดจนหน่วยงานราชการ ต่างๆ จำนวนมาก ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเพราะทุกคนได้เรียนรู้ภาษาจีนและวัฒนธรรมจีนจากเจ้าของภาษาโดยตรง นอกจากนั้นสถาบันฯ ได้จัดให้มีโครงการไปเข้าค่ายภาษาจีน ณ มหาวิทยาลัยครุศาสตร์เทียนจินเป็นประจำทุกปีตลอดมา ทำให้นักศึกษาได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศจีนและได้รับประสบการณ์จริง ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นภาพสะท้อนที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของสถาบันขงจื่อ และเป็นภาพที่ชัดเจนของความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนทางด้านการศึกษาระหว่างไทย-จีน อีกด้วย
ด้าน นายหยู่ หยุ่นเฟิ้ง ผู้อำนวยการใหญ่ศูนย์แลกเปลี่ยนและส่งเสริมความร่วมมือด้านภาษาจีนระหว่างประเทศ (CLEC) เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้กล่าวไว้ในสารแสดงความยินดีในโอกาสการประชุมระดับภาษาจีนโลกประจำปี 2567 ด้วยว่า ผู้สอนภาษาจีนและผู้เรียนภาษาจีนทั่วโลก ไม่เพียงเป็นผู้เผยแพร่ภาษาและวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางอารยธรรม และเป็นทูตแห่งมิตรภาพระหว่างประเทศอีกด้วย ดังนั้น CLEC ยึดมั่นในพันธกิจในการสนับสนุนและให้บริการแก่ประชาคมโลกในการดำเนินการสอนภาษาจีนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งส่งเสริมการพัฒนาท้องถิ่นของการเรียนการสอนภาษาจีนในแต่ละประเทศ ตลอดจนสนับสนุนการบ่มเพาะและฝึกอบรมครูภาษาจีนในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง
“โครงการทุนการศึกษาครูสอนภาษาจีนนานาชาติได้จัดตั้งขึ้นในปี 2552 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ให้การสนับสนุนผู้ที่จะศึกษาต่อหรือฝึกอบรมในประเทศจีนแล้วกว่า 70,000 คน จากกว่า 170 ประเทศทั่วโลก ในประเทศไทย มีผู้ได้รับทุนแล้วกว่า 7,000 คน โดยผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากประเทศจีนได้กลับมาสร้างคุณูปการในหลากหลายสาขา ทั้งเป็นครูสอนภาษาจีน นักการทูต นักธุรกิจ บุคลากรด้านการศึกษาและสื่อสารมวลชน อีกทั้งศิษย์เก่าทั้งหลายในประเทศไทยต่างทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทำงานอย่างมุ่งมั่น และประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในแต่ละสาขา จนกลายเป็น “ต้นแบบ” ของวงการการศึกษาภาษาจีนนานาชาติ และเป็นผู้ที่สืบสานพันธกิจอันยิ่งใหญ่ของความผูกพันทางใจระหว่างประชาชนจีน-ไทยอย่างแท้จริง” ผู้อำนวยการใหญ่ CLEC กล่าว
นอกจากนี้ผู้อำนวยการใหญ่ CLEC ยังกล่าวอีกว่า การก่อตั้งสมาคมศิษย์เก่าทุนการศึกษาครูสอนภาษาจีนนานาชาติแห่งประเทศไทย ซึ่งถือเป็นสมาคมศิษย์เก่าทุนฯ แห่งแรกของโลก นับเป็นก้าวสำคัญที่ไม่เพียงสร้างเวทีสำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ สานสัมพันธ์ และการเกื้อกูลซึ่งกันและกันในหมู่ศิษย์เก่า แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมโยงที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างศูนย์แลกเปลี่ยนและส่งเสริมความร่วมมือด้านภาษาจีนระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยจีน-ไทย ตลอดจนภาคีความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของทั้งสองประเทศ
